ดร.แบ๊งค์ งามอรุณโชติ ผู้อำนวยการสถาบันนโยบายวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรม (STIPI) เข้าร่วมรับทุนวิจัยมูลนิธิกระจกอาซาฮี ประจำปี 2568 (Research Grant Award Ceremony 2025) ซึ่งเป็นทุนวิจัยจากมูลนิธิกระจกอาซาฮี (The Asahi Glass Foundation – AF)

หัวข้อโครงการวิจัยที่ได้รับคัดเลือก คือ “A Comparative Survey of Local Product Supply Chain and Policy to Support Local Growth Engine in Japan and Thailand: A case study on pairing analysis of six Japanese and Thai provinces.””

โครงการ “การสำรวจห่วงโซ่อุปทานและนโยบายส่งเสริมผลิตภัณฑ์ชุมชนเพื่อขับเคลื่อนการเติบโตของท้องถิ่นญี่ปุ่นและไทยเชิงเปรียบเทียบ: กรณีศึกษาผ่านการจับคู่หกจังหวัดของไทยและญี่ปุ่น”

โครงการนี้ใช้แนวคิดเรื่อง เครื่องจักรขับเคลื่อนการเติบโต (growth engine) ในการศึกษาวิเคราะห์และเปรียบเทียบเชิงนโยบายและห่วงโซ่อุปทานของผลิตภัณฑ์ท้องถิ่นในประเทศญี่ปุ่นและประเทศไทย โดยมีเป้าหมายเพื่อสร้างและบริหารจัดการสินค้าชุมชนที่ส่งเสริมการเติบโตทางเศรษฐกิจและความยั่งยืน ทีมวิจัยได้คัดเลือกจังหวัดตัวอย่างจากทั้งสองประเทศจำนวนสามคู่ ได้แก่ ฮอกไกโดและสระบุรี โอกินาว่าและราชบุรี รวมถึงคานาซาว่าและลำปาง ซึ่งจังหวัดเหล่านี้มีลักษณะคล้ายคลึงกันในด้านการผลิตสินค้าท้องถิ่น เช่น ผลิตภัณฑ์นม เนื้อวัว เนื้อหมู สับปะรด ผ้าทอมือ และเครื่องปั้นดินเผา นอกจากนี้ยังมีความใกล้เคียงกันในแง่ทุนทางสังคมและวัฒนธรรม รวมถึงศักยภาพในการเติบโตทางเศรษฐกิจ

การศึกษาครั้งนี้จะเก็บรวบรวมและวิเคราะห์ข้อมูลที่เกี่ยวข้อง รวมถึงสัมภาษณ์ผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง และศึกษาการดำเนินงานร่วมกันของภาคส่วนต่าง ๆ เพื่อให้เข้าใจนโยบายและห่วงโซ่อุปทานในการผลิตและจัดจำหน่ายสินค้าท้องถิ่นของญี่ปุ่นและไทยอย่างรอบด้าน โครงการคาดว่าจะนำไปสู่การสร้างองค์ความรู้เชิงระบบเกี่ยวกับกระบวนการดำเนินงาน จุดแข็ง และข้อจำกัดต่าง ๆ ซึ่งสามารถนำมาประยุกต์ใช้ในการกำหนดนโยบายและแนวทางปฏิบัติในอนาคต เพื่อส่งเสริมผลิตภัณฑ์และนวัตกรรมท้องถิ่นของไทยให้เติบโตอย่างยั่งยืน

 

===

 

This project utilises the concept of ‘growth engine’ to examine and compare the policies and local product supply chains of Japan and Thailand for the purposes of generating and managing community goods that foster economic growth and sustainability. The research team has identified three pairs of provinces from the two countries, namely: Hokkaido and Saraburi, Okinawa and Ratchaburi, and Kanazawa and Lampang. These provinces exhibit similarities in terms of production of local goods, including dairy, beef, pork, pineapple, hand-woven fabric, and ceramic pottery. Furthermore, these provinces also resemble each other in respect to their sociocultural capital and opportunities for economic growth. The study thus involves the collection and analysis of relevant data, interviews, and information pertaining to collaborative work of respective stakeholders in order to achieve a thorough understanding of policies and supply chains for the production and distribution of local Japanese and Thai products. The project is expected to produce a comprehensive perspective as it relates to operational procedures, strengths, and weaknesses that might be applicable to future policies and practices to support sustainable Thai local products and innovations.

 

#STIPI #KMUTT