หลักสูตร STIP07 วันที่ 12 มิถุนายน 2568 @KX ชั้น 10 ห้อง 04AB
การนำเสนอความก้าวหน้าโครงงานกลุ่ม ครั้งที่ 2
ได้รับเกียรติจากผู้ทรงคุณวุฒิ และ ผู้เชี่ยวชาญอาวุโส ด้านนโยบายวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรม ทั้งภาครัฐและเอกชน ร่วมให้ข้อเสนอแนะเพื่อพัฒนาโครงงานกลุ่มสู่การนำไปใช้ประโยชน์ได้จริง อาทิ ศาสตราจารย์เกียรติคุณยงยุทธ ยุทธวงศ์ อดีตรัฐมนตรี กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี และ นายกสภามหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี (มจธ.), นายสัตวแพทย์รุจเวทย์ ทหารแกล้ว
กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ สวก. และกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ กรรมการบริหารหน่วยบริหาร และ จัดการทุนด้านการเพิ่มความสามารถในการแข่งขันของประเทศ (บพข.), ดร.กิติพงค์ พร้อมวงค์
อดีตผู้อำนวยการ สำนักงานสภานโยบายอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (สอวช.)
, ดร.กฤษณพงศ์ กีรติกร ที่ปรึกษามหาวิทยาลัย มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี (มจธ.), ดร.ญาดา มุกดาพิทักษ์ อดีตรองผู้อำนวยการ สอวช. ในส่วนภาคเอกชน อาทิ คุณถนาจศักดิ์ ดวงทิพย์ ผู้จัดการอาวุโส สำนักงานขายภาคอีสาน บริษัท สยาม คูโบต้า คอร์ปอเรชั่น จำกัด, คุณแสงชัย ธีรกุลวาณิช ประธานสมาพันธ์เอสเอ็มอีไทย สมาพันธ์เอสเอ็มอีไทย, คุณสรณ์ปกรณ์ ศิรการบัณฑิตย์ เลขานุการสายงาน FTI Academy สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย
โครงงานกลุ่มที่นำเสนอ จำนวน 5 กลุ่ม ได้แก่
กลุ่มที่ 1 หัวข้อ “Human Capital and Skills Development” เรื่อง “ยกระดับศักยภาพผู้สูงวัยในชุมชนท้องถิ่นไทยด้วยกลไกด้าน STI เชื่อมโยงภาคเกษตรกรรมสู่ภาคบริการและท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน”กลุ่มที่ 2 หัวข้อ “”Health and Wellness Technology”” เรื่อง “นโยบายการส่งเสริมการป้องกันโรคสมองเสื่อมด้วยเครื่องมือและเทคโนโลยีที่เหมาะสม”กลุ่มที่ 3 หัวข้อ “Digital Technology” เรื่อง “การเสริมประสิทธิภาพแผนปฏิบัติการป้องกันและบรรเทาภัยจากภัยพิบัติในพื้นที่กรุงเทพมหานคร (ระยะก่อนเกิดเหตุ ระยะเผชิญเหตุ และระยะหลังเกิดเหตุ) ด้วยการใช้ประโยชน์จากระบบฐานข้อมูลและเทคโนโลยีดิจิทัล ผ่านการยกระดับ Traffy Fondue สู่ Traffy Fondue Care Plus+””กลุ่มที่ 4 หัวข้อ Bio Green and Circular Economy” เรื่อง “ข้อเสนอเชิงนโยบายการจัดการอาหารส่วนเกิน (FOOD SURPLUS) ในครัวเรือนเขตกรุงเทพฯ”กลุ่มที่ 5 หัวข้อ “Creative Economy” เรื่อง “นโยบายส่งเสริมและยกระดับ Street Food ในย่านตลาดพลูเพื่อพัฒนาพื้นที่เมือง วัฒนธรรม และเศรษฐกิจฐานรากอย่างยั่งยืน”
